วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Pokemon Go : Niantic เตรียมปล่อยโปเกม่อนใหม่อีก 10 ตัว

           หลังจาก Pokemon GO ทยอยเปิดให้แฟนๆเกือบทั่วโลกได้เล่นแล้ว รวมทั้งประเทศไทยด้วยที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 59 ที่ผ่านมา และอย่างที่ทราบกันดีว่า Niantic ผู้ให้บริการเกมบอกว่าตอนนี้ตัวเกมพัฒนาเพียงแค่ 10% ของแผนทั้งหมดที่วางไว้เท่านั้น ยังมีการอัพเดพอีกมากมายรอให้ติดตาม แน่นอนจะมีระบบใหม่เ พิ่มเข้ามาในเร็วนี้เช่น breedings, หรือ pokestop ที่อัพเกรดได้ อีกหนึ่งในสิ่งที่จะเพิ่มเข้านั่นก็คือ Generation 2 ของโปเกม่อนนั่นเอง


มาดูกันเลยว่ามีโปเกมอนตัวไหนบ้างจากตัวเกมเวอร์ชั่นนี้ ที่เมื่อ Generation 2 เข้าแล้วจะสามารถหลายร่างหรือ Evolution ต่อได้ ไปดูกันเลย!

1.Crobat

ร่างพัฒนาที่ 3 ของเจ้าค้างคาวน้อย Zubats แน่นอนมันจะมาสร้างความแตกต่างให้เพื่อนเห็นแน่นอน เป็นตัวเริ่มต้นได้ดีเลยทีเดียว

2.Bellossom

ร่างที่ 3 ของเจ้าตัวต้นหอม Oddish ที่พอสะสมแคนดี้จนครบจะอีโวเป็น Gloom และเมื่ออัพเดทต่อไปเข้าจึงจะสามารถกลายเป้น Bellossom นั่นเอง


3.Politoed

ร่างสุดท้าย ของโปเกม่อนลูกอ๊อดอย่าง Poliwag ที่พอสะสมแคนดี้จนครบจะอีโวเป็น Poliwhirl กบท้องม้วน แล้งร่างต่อไปนั่นก็ คือ Politoed นั่นเอง



4. Slowking

ร่างที่ 2 อีกหนึ่งทางเลือกในการ Evolution ของ Slowpoke โปเกม่อนเชื่องช้า ที่จะโคตรเทพเมื่อกลายร่างเป็น Slowking 



5. Steelix

โปเกมอนที่พัฒนาร่างต่อจากอีวาค หรือ Onix ที่ดูไม่ได้เก่งไรเลยในเกม Pokemon GO แต่พอกลายร่างเป็น Steelix จะเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโปเกม่อนที่แข็งแกร่งเลยที่เดียว ใช้แคนดี้เพียง 50 candies เองนะจะบอกให้

6. Blissey

ร่างสุดยอดของ Chansey ที่ไม่ได้มีเพียงแต่ความน่ารัก แต่แม่งโคตรถึกแลัเลือดเยอะมาก แน่นอนว่าการกลายร่างเป็น Blissey จะถึกขึ้นไปอีกขั้นและใช้แคนดี้เพียง 50 candies เช่นกัน


7. Kingdra

ร่างที่ 3 ของม้าน้ำสุดน่ารักอย่าง Horsea ที่จะพัฒนาเป็นร่างที่ 2 Seadra ก่อนจึงจะเป็นร่างที่ 3 Kingdra ได้ โดยคาดว่าจะใช้แคนดี้ในการพัฒนาจำนวน 100 candies.


8. Scizor

ร่างที่ 2 และเป็นร่างสุดท้ายของโปเกม่อนสุดเท่อย่างสไตร์ Scyther ซึ่งน่าจะใช้เพียง 50 candies เท่านั้นในการอีโว


9. Espeon and Umbreon

อย่างที่รู้กันว่าเจ้า Eevee สามารถพัฒนาร่างได้หลากหลาย ในตอนนี้สามารถเปลี่ยนร่างได้ 3 ทาง คือ 
1.ธาตุไฟฟ้า Jolteon เปลี่ยนชื่อ Eevee ก่อนอีโวเป็น Sparky 
2.ธาตุไฟ Flareon เปลี่ยนชื่อ Eevee ก่อนอีโวเป็น Pyro
3.ธาตุน้ำVaporeon เปลี่ยนชื่อ Eevee ก่อนอีโวเป็น Rainer
***หากไม่ได้ตั้งชื่อไว้มันจะซุ่มพัฒนาร่างจาก 3 ธาตุ 

และอีก 2 ทางเลือกเพิ่มเติมที่กำลังจะตามมาของการเปลี่ยนร่างของ Eevee ซึ่งแน่นอนใช้เพียง 25 แคนดี้เหมือนเดิม Espeon เป็นโปเกม่อนธาตุ Psychic type ส่วนเจ้า Umbreon เป็นโปเกม่อนธาตุมืด โดยมีเคล็ดลับในการเปลี่ยนร่างเช่นเคย

เปลี่ยนเป็น Espeon ให้เปลี่ยนชื่อ Eevee เป็น Day
เปลี่ยนเป็น Umbreonให้เปลี่ยนชื่อ Eevee เป็น Night


10. Porygon2

ร่างที่ 2 ของโปเกม่อนที่หายากพอตัวอย่าง Porygon เจ้านกเหลี่ยม โดยคาดว่าใช้แคนดี้ในการพัฒนาอยู่ที่ 50 candies



รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่มีแนวทางอัพตัวไหน อย่าลืมเตรียม Candy รอไว้เลยนะครับ พบกันใหม่บทความหน้า










Pokemon Go : วิธีการเล่นเบื้องต้น

       

          เปิดตัวกันไปแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับเกม Pokemon Go ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา แม้ว่าการเล่นในรูปแบบมือถืออาจจะไม่ได้ซับซ้อนเมื่อเทียบกับเกมโปเกมอนต้นฉบับ แต่การที่ตัวเกมไม่ได้มีโหมดสอนอะไรมากนักทำให้หลายคนยังคงอาจมีข้อสงสัยว่าจะเล่นยังไง ทางเว็บแบไต๋ได้รวมวิธีเล่นเบื้องต้นมาให้ชมกัน

เมื่อต้องการเริ่มเล่น Pokemon Go จะต้องมี Account สำหรับเข้าใช้งานตัวเกมเสียก่อน ซึ่งการผูกบัญชีไว้กับ Google Account เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด (เพราะต้องเชื่อมต่อกับ Googlemap) เพียงแค่นี้คุณก็สนุกไปกับเกม Pokemon Go ได้แล้ว

เมื่อเริ่มเกมเราจะเลือกตัวละครได้ทั้งเพศชายและหญิง โดยเราสามารถปรับเสื้อผ้าหน้าผมและสีผิวได้เล็กน้อยไม่ได้ละเอียด เมื่อเลือกแล้วก็เริ่มเกมกันได้เลย 


โดยเริ่มเกมมาเราจะเห็นตัวละครของเราอยู่บนแผนที่ ซึ่งเกมนี้มันไม่ใช่เกมที่จิ้มๆหน้าจอแล้วจะเล่นเลย มันเป็นเกมที่เราต้องเดินตัวละครจึงจะขยับไปตามทิศทางที่เราเดินเสมือนอยู่บนแผนที่จริง ซึ่งส่วนแรกที่ผู้เล่นจะเห็นก็คือจุด PokeStops ที่เป็นวงกลมโดยนอกจากจะระบุจุดสำคัญและสถานที่สำคัญแล้ว “ยังมีไอเทมซ่อนอยู่โดยผู้เล่นต้องไปหมุนที่วงกลมที่มีรูปภาพจริงของสถานที่สำคัญ” แล้วไอเทมในเกมจะออกมาให้เราเก็บตามภาพด้านล่าง ดังนั้นหากคุณอยากเล่นฟรีๆ ไม่เสียเงินก็ต้องขยันเดินไปตามจุด PokeStops อยู่ซึ่งความถี่ของการมีของจุดต่างๆ ขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรดังนั้นในเมืองจะมีตัวโปเกมอนอยู่มากกว่าตามชานเมืองรวมทั้งจุด PokeStops ที่จะมีมากตามด้วย 


โดยบางครั้งตัวโปเกมอนจะมีการซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆบนแผนที่ซึ่งเทรนเนอร์ก็ต้องคอยสังเกตุให้ดี และหากมันโผล่ในแผนที่ในเกมต้องให้ตัว โปเกมอน อยู่ในระยะวงกลมถึงจะสามารถจับมันได้ โดยบนหน้าจอแผนที่ด้านขวาล่างจะเป็นการระบุว่าแถวนี้ใกล้ๆมีตัวโปเกมอนชนิดไหนอยู่บ้างโดยหากเรายังไม่เคยจับได้มันจะมาเป็นเงา ซึ่งหากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ต้องรู้จักแต่นอน

ส่วน Pokemon Gym จะมีรูปร่างเป็นวงกลมซ้อนกันและมีโลโก้อยู่ด้านบนซึ่งเห็นเด่นชัดมากบนแผนที่ โดยหากยิมมีคนยึดอยู่เมื่อกดเข้าไปดูจะเจอตัวโปเกมอนของเจ้าของที่ยึดไว้และหากเราอยากต่อสู้ก็กดไปท้าดวลได้เลย แต่เมื่อยืดยิมแล้วก็ต้องทิ้งตัวโปเกมอนเอาไว้เฝ้ายิม ซึ่งไม่ควรเลือกตัวเก่งไว้เฝ้าจนหมดเพราะเราต้องเก็บไว้สู้กับยิมอื่นๆ อีก

ทิปในการต่อสู้เราสามารถบังคับให้ตัวละครหลบได้ รวมทั้งยังปล่อยท่าไม้ตายด้วยการกดค้าง (การท้าดวลใน Pokemon Gym ได้เราต้องมีเลเวล 5 ขึ้นไป )


การจับโปเกมอน ในเบื้องต้นได้เขียนไว้แล้วใน การจับโปเกมอน แต่จะเพิ่มเติมในส่วน การจับตัวโปเกมอนจะง่ายหรือยาก จะกำหนดเป็นสีโดย สีเขียวจับง่าย สีเหลืองปานกลาง สีสัมจับยาก และสีแดงจับยากที่สุด แต่ก็จะเป็นตัวที่มีค่า CP สูงมากตาม ดังนั้นหากเจอตัวยากๆ หากไม่พร้อมก็อย่าฝืนจับเพราะเราจะเสีย Pokeball ไปเปล่าๆ และเราควรรีบเก็บเลเวลของตัวเทรนเนอร์ให้เร็วที่สุด ให้เกิน LV20 โดยวิธีเก็บไว้ให้ไวก็คือการจับโปเกม่อนให้ได้เยอะ เมื่อเราเลเวลมากขึ้น โอกาสเจอโปเกมอนตัวเทพๆก็จะมากขึ้น เมื่อนั้นตัวที่เราต้องการจริงๆและจับยากเราก็สามารถโยนผลไม้และเปลี่ยน Pokeball แบบใหม่ ก็จะทำให้การจับง่ายยิ่งขึ้น


สำหรับทีมในเกมนั้น การเข้าทีมของเกมจะทำได้เมื่อเรามี เลเวล 5 เมื่อเข้ายิมแล้วจะสามารถเลือกทีมที่เราอยากจะสังกัดได้ โดยมี 3 ทีมทั้ง
1. Team Instinct (สัญลักษณ์ตำนานนกไฟฟ้า)
2. Team Mystic (สัญลักษณ์ตำนานนกน้ำแข็ง)
3. Team Valor (สัญลักษณ์ตำนานนกไฟ) 
ซึ่งเป็นหนึ่งในธาตุหลักของเกมโปเกมอนต้นฉบับ ซึ่งหากเลือกทีมแล้วก็ต้องไปตียิมฝั่งตรงข้ามเพื่อช่วยทำคะแนนฝ่ายเราให้ได้มากที่สุดคล้ายกับการหาเพื่อน หรือคู่ต่อสู้ไปพร้อมกัน (สังเกตุได้ว่ายิมนี้เป็นทีมอะไรดูง่ายๆแค่ดูสีของยิมภายนอก)


ระบบเมนูของเกม Pokemon GO ที่ไม่ซับซ้อนและเรียบง่าย โดยหลักๆแล้วจะมี Pokédex เป็นส่วนเพื่อบอกข้อมูลของ ตัวโปเกมอน ทั้งหมดที่เราจับได้และเคยเจอมันมาแล้ว ซึ่งมันก็เหมือนกับเวอร์ชั่นเกมคอนโซลพกพา ต้นฉบับโดยโปเกมอนทั้งหมดจะมีทั้งหมด 142 ตัวในเบื้องต้น โดยในอนาคตยังจะมีออัพเกรดตัวเพิ่มเติมอีก



แน่นอนว่าคอเกมสายเติมเงินสามารถมีตัวโปเกมอนเทพๆ ได้จากการซื้อไข่ แต่หากคุณไม่อยากเสียเงินจริงเพื่อซื้อ pokecoins สามารถหาได้จากการตี โปเกมอนยิม ส่วนสายเติมเงินก็สามารถใช้ซื้อเงินได้เลย โดยเริ่มต้นแค่ 35 บาท ต่อเหรียญ pokecoins 100 เหรียญ (ซึ่งแลก Pokball ได้แค่ 20 ลูก)

ทั้งนี้ หากท่านไม่ต้องการโปเกม่อนตัวไหน หรือดูแล้วค่า CP น้อยเกินไป สามารถกด Transfer ตัวที่ไม่ต้องการออกไปได้ โดยเราจะได้ Candy ของโปเกม่อนประเภทนั้นกลับมาด้วย เผื่อไว้สำหรับ Evolve โปเกม่อนประเภทนั้นตัวที่ต้องการต่อไป 


วิธีการเล่นเบื้องต้นก็จบเพียงเท่านี้ หากเรามีเทคนิคการเล่นดีๆ เดี๋ยวจะมาอัพเดตกันต่อไปในบทความหน้า